บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 10
วิชา การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย
Learning Experiences Management in Early Childhood Education
กลุ่มเรียน 102
ดร. จินตนา สุขสำราญ
เวลาเรียน 11.30-14.30 น.
วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2560
สะท้อนการเรียน
อาจารย์ได้เล่านิทาน เรื่อง กับดักหนูให้นักศึกษาฟังและให้แสดงความคิดเห็น
วันศุกร์วนมาอีกรอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก็สองสัปดาห์ผ่านไปแล้วนะครับนับจากปีใหม่มา เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ปีนี้ก็น่าจะเป็นปีที่ดีๆ ของหลายๆ คนนะครับ ต้นปีแบบนี้ก็ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น และขอให้พลังจงอยู่กับท่านตลอดทั้งปีนะครับ วันนี้ผมก็เอานิทานสอนใจมาให้อ่านกันอีกเรื่องหนึ่งครับ ลองอ่านดูเลยละกันครับ
วันหนึ่งหนูน้อยตัวหนึ่งมองผ่านทางรูฝาผนังบ้านเห็นภรรยาของชาวนากำลังตั้งกับดักหนู ด้วยความตื่นเต้นตกใจ เจ้าหนูน้อยกระโจนออกไปกลางลาน พร้อมตะโกนด้วยความตกอกตกใจกลัวภัยอันตรายที่จะเข้ามาใกล้ตัว
“กับดักหนูอยู่ในบ้าน!! กับดักหนูอยู่ในบ้าน!!”
แม่ไก่ได้ยินเข้า ก็มองหนูอย่างเยาะยันพร้อมพยักไหล่อย่างไม่แยแส พร้อมกับกล่าวว่า
“เจ้าหนูน้อย ข้าได้ยินแล้วว่าภัยใกล้ตัวเจ้า แต่นั่นมันเป็นเรื่องของเจ้า กับดักหนูไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะสนใจอะไร มันไม่ธุระของข้า”
ว่าแล้วก็คุยเขี่ยหาอาหารอย่างทองไม่รู้ร้อนต่อไป
เจ้าหนูน้อยวิ่งหน้าตั้งไปยังหมูซึ่งกำลังใช้จมูกขุดคุยอาหาร
“หมู หมู นายรู้หรือเปล่าว่ามีกับดักหนูอยู่ในบ้าน” หมูได้ยินพยักหน้ารับ พร้อมบอกว่า
“เจ้าหนูน้อย ข้ารู้สึกสงสารแกจริง ๆ แต่ข้าไม่สามารถจะช่วยอะไรเจ้าได้หรอก นอกจากจะสวดมนต์ภาวนาให้เจ้าปลอดภัยเท่านั้น ข้าจะสวดมนต์ภาวนาให้เจ้าทุก ๆ ครั้งก่อนนอนก็แล้วกันนะ”
ด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เจ้าหนูวิ่งโร่ไปหาวัวซึ่งกำลังเล็มหญ้าอยู่ข้างๆ บ้าน
“นาย นาย มีกับดักหนูอยู่ในบ้าน” เจ้าหนูน้อยตะโกนบอกวัวด้วยเสียงระทึกกลัว
วัวหันมายิ้มพร้อมกับพูดว่า “โม โม! เออ! จริงหรือ? น่ากลัวนะสำหรับเจ้า แต่ขอโทษทีเถอะสำหรับข้าไม่ได้สะเทือนตัวข้าเลยสักนิด กับกับดักหนูเล็ก ๆ แค่นั้น”
ด้วยความหมดหวัง เจ้าหนูน้อยเดินคอตกกลับไปเผชิญชะตากรรมในบ้านอย่างโดดเดี่ยว
หลังมืดสนิทในคืนนั้น เสียงกับดักหนูงับเสียงดังสนั่น ภรรยาชาวนาลงมาดูหวังได้หนู แต่ในความมืดภรรยาชาวนามองไม่เห็นว่ากับดักหนูงับติดหางงูเห่าตัวใหญ่อยู่ ในความมืดงูเห่ากัดภรรยาชาวนา จนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล และกลับมารักษาที่บ้าน แต่ปรากฏว่าภรรยาชาวนามีไข้ขึ้นสูงตลอดเวลา
ชาวนาทุกคนรู้ว่ายาแก้ไขนั้นต้องให้คนไข้ทานซุปไก่ ดังนั้นชาวนาก็ฆ่าไก่มาต้มซุปให้ภรรยาทาน แต่อย่างไรเสียอาการป่วยของภรรยาไม่ดีขึ้นเลย มีเพื่อนฝูงเกือบทั้งหมู่บ้านมาเยี่ยมเฝ้าไข้กันเนื่องแน่น จนชาวนาต้องฆ่าหมูเพื่อทำอาหารเลี้ยงเพื่อน ๆที่มาเยี่ยมเยียน และปรนนิบัติภรรยาตัวเอง
เวลาผ่านไปภรรยาชาวนาก็ไม่ดีขึ้นในที่สุดก็ได้เสียชีวิตไป หลังจากนั้นก็มีงานศพใหญ่โตเพื่อนฝูงมาร่วมงานกันมากมาย ชาวนาก็ต้องเชือดวัวทำอาหารเลี้ยงแขกในงาน….
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ไม่ได้เล็ดลอดจากสายตาของเจ้าหนูน้อยตัวนั้นแม้สักนิด เพราะเจ้าหนูน้อยได้เฝ้าสังเกตการณ์จากรูฝาผนังด้วยหัวใจที่แสนเศร้าสลดตลอดมาง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากได้ยินภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่งในสังคม จงคิดเอาใจใส่หาทางช่วยเหลือ อย่าคิดว่าธุระไม่ใช่ จงจำไว้ว่าวันหนึ่งภัยเล็กน้อยนั้นอาจจะลามใหญ่เป็นภัยถึงตัวเราก็ได้
ฉะนั้นเราต้องเป็นหูเป็นตาให้แก่กัน อย่านึกว่าธุระไม่ใช่ ไม่เช่นนั้น เราอาจจะมีปัญหาร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องของตน ดั่งเช่น ไก่,หมู และวัว ในนิทานนี้เรื่องนี้นั่นเอง
อาจารย์ได้นำวีดีโอการสอนแบบโครงการ มาให้นักศึกษาดู
skills (ทักษะที่ได้รับ)
-ทักษะการประยุกต์
-ทักษะการวิเคราะห์
Adoption (การนำไปใช้)
- นำคำสอนจากนิทานกับดักหนูไปใช้ในการดำเนินชีวิตและนำความรู้จากการสอนแบบโครงไปใช้ในการฝึกประสบการณ์และการเป็นครูต่อไป
Evaluation (การประเมิน)
Instructor Rating (ประเมินผู้สอน) อาจารย์สามารถอธิบายถึงนิทานและแนวการสอนได้อย่างเข้าใจ
Rating friends (ประเมินเพื่อน) เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์
Self-evaluation (ประเมินตนเอง) สามารถนำความรู้ในวันนี้ไปปฏิบัติได้จริง